วันนี้เราจะมารีวิวและแนะนำ 10 อันดับ หนังดี หนังน่าดู หนังที่ไม่ควรพลาด ที่ได้รับรางวัลมากมายและเป็นหนังที่ได้รับคะแนนอันดับต้นๆ ในเว็บ IMDB หนังสนุก รวมหนังที่ไม่ควรพลาดในชีวิตนี้ จะมีเรื่องอะไรบ้างไปเราชมกันได้เลย
1. The Shawshank Redemption
ถ้าหากถามคำถามว่าเพราะเหตุไรหนังหัวข้อนี้ถึงเข้าไปอยู่ในใจผู้ชมได้ทั่วทุกมุมโลก ไม่เพียงแค่นั้นคะแนนการตำหนิดชั้นหนังดีนิรันดรของ IMDb หัวข้อนี้ก็ติดอันดับ 1 อีกด้วย (คะแนนรวม 9.2 / 10) ไม่ประหลาดใจเลยว่าเพราะเหตุใดถึงได้ลำดับแรกๆชั่วนิจนิรันดร์ขนาดนี้ โน่นก็เพราะเหตุว่าหนังประเด็นนี้ มิได้มีดีเพียงแค่บท, เรื่องราว, การเล่าเรื่องหรือเดินเรื่อง, ดารา, มุมกล้องถ่ายภาพ หรืออะไรอะไรก็แล้วแต่แต่ว่าสิ่งที่มัน Touching จิตใจผู้ชมได้นั้น อาจหนีไม่พ้นสิ่งที่หนังกำลังบอกรวมทั้งบากบั่นสื่อกับผู้ชมอย่างพวกเราๆให้มองเห็นถึงคำกล้วยๆสั้นๆแต่ว่าทรงอำนาจที่สุด มันก็คือ “ความมุ่งหวัง” สิ่งที่ประเด็นนี้กำลังบอกแล้วก็ถ่ายทอดออกมาตลอดทั้งเรื่องเป็น “ความมุ่งหวัง” และก็ “ความอิสระ” ที่เป็นของคู่กัน
The Shawshank Redemption เป็นหนังที่อุตสาหะสื่อภาพ, มุมกล้องถ่ายรูป, แสงสว่าง และก็ เครื่องหมายอันเป็นนัยยะ ที่บ่งบอกถึงถึงความปรารถนาแล้วก็ความอิสระอยู่เสมอเวลา ที่นำเสนอถึงความแอนดี้ ที่มองแตกต่างกัน แล้วก็มองเป็นผู้ที่มีหวังแล้วก็เสรีภาพเยอะที่สุด แม้ว่าเขาจะอยู่ในคุกที่ปิดล้อมด้วยกำแพงเรือนจำที่สูงใหญ่นี้ก็ตาม และยังรวมไปถึงการเปรียบเทียบให้มองเห็นถึงความน่าขนลุกของการปราศจากความหวัง ของคนภายในตารางที่อยู่มานานอปิ้งบรูค ผู้ต้องขังชายวัย 70 กว่า ที่มี Shawshank เปรียบได้เสมือนดั่งบ้านและก็ชีวิตของเขา ที่เมื่อเข้ามาและโทษจำตารางทั้งชีวิต ทำให้เขาถูกยึดเอาความคาดหมายรวมทั้งความอิสระที่จะโบยบินออกไปดำรงชีวิตอิสระของจากเมืองนอกกำแพง ความดำตรงรวมทั้งชีวิตในกำแพงเริ่มกัดรับประทานตัวเขาทีละเล็กทีละน้อย กระทั่งทำให้เขาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับคุก กล่าวได้ว่าตลอดชาติของบรู๊ค ก็คือ Shawshank
แต่ว่าแล้วในวันที่เขาจำเป็นต้องออกไปดำรงชีวิตด้านนอกนั้น ทำให้พวกเรามีความคิดเห็นว่าตัวเขาเองไม่ได้มีความแตกต่างจากนกในกรง ที่ถูกชุบเลี้ยงด้วยการป้อนข้าวป้อนน้ำตั้งแต่ทารก จนกระทั่งทำให้ลืมไปว่าชีวิตที่เป็นเสรีแล้วก็ประพฤติตามจิตใจตัวเองนั้นเป็นอย่างไร ท้ายที่สุดการปล่อยนกตัวนั้นออกไปให้บินเอง ก็คงจะไม่ได้มีความแตกต่างจากการให้มันไปตายภายใต้ความกลัวที่มี บรู๊คก็สิ่งเดียวกัน เขาเป็นเสมือนผู้แทนของผู้ที่ไม่มีหวังรวมทั้งถูกริดรอนความอิสระไปจนกระทั่งหมดเกลี้ยง
2. The Dark Khight
The Dark Knight จะเกิดเรื่องราวภายหลังจาก “Batman Begins” ได้ไม่นาน เรื่องราวภายหลังที่เหล่าผู้กระทำผิดกฎหมายในเมืองก็อตแธมเริ่มต่ำลง เนื่องจากความหวาดกลัวที่มีต่อ “กางทแมน” เหล่าแก๊งค์ต่างๆได้รวมตัวกันเพื่อปกป้องจากกางทแมน และก็คนร้ายโนเนมผู้มีแผลปากฉีกอย่าง “โจ๊กเกอร์” ก็ได้เผยตัวขึ้นเพื่อสมัครใจที่จะเป็นคนกำจัดกางทแมน
ซึ่งไม่มีผู้ใดรู้ดีว่าโจ๊กเกอร์เป็นคนใดกันหรือมีอดีตกาลอย่างไร แม้กระนั้นโจ๊กเกอร์เบาๆคิดแผนเพื่อฆ่าคนสำคัญในเมืองก็อตแธมไปครั้งละคน โดยป้ายประกาศว่าผู้ใดที่เป็นกางทแมนหากยอมเผยตัวตน เขาจะหยุดการสังการโดยทันที เนื่องจากว่าการที่กางทแมนถอดหน้ากากโน่นก็คือการที่กางทแมนก้าวสู่จุดสิ้นสุด เพราะว่าถึงสิ่งที่กางทแมนทำอยู่จะช่วยทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้นรวมทั้งมีผู้กระทำผิดกฎหมายลดลง แต่ว่าก็มีคนภายในสังคมไม่น้อยที่ไม่รับแล้วก็ช่วยเหลือสิ่งที่กางทแมนทำอยู่ เพราะว่ามิได้เป็นการปฏิบัติภายใต้กฏหมาย ในเวลาเดียวกันก็มีอัศวินม้าขาวอย่าง “ฮาร์วีย์ เดน” โผล่ขึ้นมาในเมืองก็อตแธมในฐานะอัยการคนที่สมัครใจจะลากเหล่าผู้กระทำผิดกฎหมายทั้งหลายแหล่มาลงโทษ ทั้งยังเขายังเป็นขวัญใจคนใหม่ของ “ราเชล” อดีตกาลคู่รักของบรูซอีกด้วย ซึ่งบรูซก็เห็นด้วยรวมทั้งนับถือการตัดสินใจของคุณ
แม้กระนั้นเพราะฮาร์วีย์กำลังเปลี่ยนเป็นเครื่องหมายของความเที่ยงธรรมในเมืองนี้ โจ๊กเกอร์ก็เลยหมายหัวรวมทั้งนั้นก็ทำให้เรื่องราวมาถึงจุดหักเหรวมทั้งการห่ำหั่นชิงไหวชิงพริบระหว่างกางทแมนคนที่เชื่อถือในความถูกต้องรวมทั้งอยากได้ที่จะกำจัดเหล่าผู้ร้ายเพื่อก็อตแธมกับโจ๊กเกอร์ คนที่อยากได้มองเห็นความพิท้องนาจรวมทั้งความโกลาหลของสังคมทั้งยังมีความเชื่อที่ว่าหากแม้ผู้ที่ดีเยี่ยมที่สุดถ้าเกิดถึงจุดๆหนึ่งก็สามารถจะเลวชั่วช้าได้ไม่แพ้กัน
3. Forrest Gump
ความรู้สึกข้างหลังได้มอง Forrest Gump ผมถูกใจฉากเปิดมากมายที่ขนลอยละลิ่วตามลมแล้วมาตกที่ Forrest Gump ตัวหนังเล่าออกมาได้ที่นาพึงพอใจมากมายรวมทั้งยังมีผลให้พวกเราอินตามไปกับเรื่องราวแถมหนังยังเสนอคำถามให้พวกเราได้หาคำตอบของชีวิตและก็มีประโยคที่ผมถูกใจก็คือ“แม่พูดเฉไฉมอว่า ‘ชีวิตเป็นราวกับกล่องช็อกโกแลต ลูกไม่มีทางทราบหรอกว่าจะได้รับประทานรสไหน‘” รวมทั้งยังสร้างแรงบรรดาหัวใจด้วยการใช้ชีวิตของ Forrest Gump ที่เขาบากบั่นทำทุกสิ่งอย่าเต็มทนและไม่ยอมต่อปัญหาผมหวังว่าหนังหัวข้อนี้น่าจะสร้างแรงบรรดาหัวใจให้คนอีกหลายคนได้นะคับทดลองไปพบกันมาดูนะคับกับ Forrest Gump อัจฉริยะปัญญาอ่อน
4. Inception
เมื่อครั้งที่ผมมอง Inception ในโรงภาพยนต์ 10 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะไปดูในช่วงเวลานั้นได้ยินเกียรติศักดิ์ Nolan มาจากเรื่อง Memento และก็ Prestige ซึ่งผมต้องใจ 2 หัวข้อนี้มากมาย รวมทั้ง Batman อีกทั้ง 2 ภาค เลยมีความรู้สึกว่ายังไงๆเจ้าหนัง Inception เนี่ยมันจำต้องสลับซับซ้อนลึกซึ้งแน่ๆ ซึ่งไม่ผิดหวัง เพียงแค่เปิดเรื่องมาก็จัดหนักฝันซ้อนฝันกันแล้ว ในเวลานั้นนึกในใจว่า Nolan แม่งมัวแต่เริ่มเลยโว้ย ถ้าเกิดสมาธิหลุดนี่จะมึนเลยจ๊า จนแล้วจนรอดก็พยุงสมาธิทำความเข้าใจจนถึงมองจบ ตกลงว่ารอบแรกผมคงจะรู้เรื่องซัก 80% ที่เหลืออีก 20% มาดูซ้ำเก็บเนื้อหาทางเคเบิ้ลโทรทัศน์เอา
มันแปลกตรงที่ว่าถึงหนัง Inception จะสลับซับซ้อนเข้าใจยาก แม้กระนั้นมันมีเสน่ห์ในตัวของมันเองแบบแปลกๆอีกทั้งเรื่อง Memento ที่เล่นย้อนด้านหลังเรื่องไปที่มา ทั้งยังเรื่อง Prestige ที่เป็นการเชือดคมของ 2 นักเล่นกลแสนสลับซับซ้อน สองประเด็นนี้มีสไตล์แล้วก็การเดินเรื่องที่น่าติดตามแบบแปลกๆแม้กระนั้นน่าติดตาม หรือกล่าวอีกอย่างว่าการดูหนังของ Nolan ดัง Puzzle ที่พวกเราจำต้องแก้ด้วยวิธีการทำความรู้ความเข้าใจ ทำให้ผู้ชมบันเทิงใจกับกระบวนการทำความรู้ความเข้าใจในตัวหนังแล้วก็ทำความเข้าใจ สิ่งที่ Nolan จะสื่อ ทั้งสิ้นทั้งหลายทั้งมวลนี้ก็เลยไม่สนเท่ห์ใจที่ Nolan ถูกชูให้เป็นเสด็จบิดา
5. The Green Mile
The Green Mile หนังที่ผลิตจากนิยายชื่อเดียวกัน ของ สตีเฟ่น คิง เจ้าพ่อนิยายสยองขวัญสั่นประสาท เพียงสำหรับหัวข้อนี้ The Green Mile บางทีอาจไม่หลอนเท่าเรื่องอื่นๆของเขา แม้กระนั้นก็ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นความเร้นลับ ความร้ายแรง แล้วก็การนำเสนอเรื่องจริงที่น่าสะอิดสะเอียนของคนเรา รวมทั้งสังคม ในแบบของ สตีเฟ่น คิง อยู่ดี
ภาพยนตร์อเมริกันประเด็นนี้ฉายช่วงวันที่ 10 เดือนธันวาคม 1999 ในสหรัฐฯ รวมทั้งไปถึงเป้าหมายเป็นอย่างมาก ทั้งยังรายได้รวมทั้งข้อคิดเห็น กระทั่งมีชื่อเข้าชิงรางวัลหลายสถาบัน อีกทั้งลูกโลกทอง แล้วก็รางวัลออสการ์ โดยยิ่งไปกว่านั้นรางวัลอออสการ์ มีชื่อเข้าชิงถึง 4 สาขา ยกตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์เยี่ยมที่สุด, ผู้แสดงประกอบชายดีเยี่ยมที่สุด (Michael Clarke Duncan ที่แสดงเป็น จอห์น ค็อฟฟี้), บทภาพยนตร์ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขดีเลิศ แล้วก็บันทึกเสียงเยี่ยมที่สุด
6. Fight Club
แจ็ค ชายคนเป็นโรคนอนไม่หลับเรื้อรัง ผู้บากบั่นหาทางออกให้แก่ชีวิตอันน่ารำคาญของตัวเองจนถึงเมื่อเขาได้เจอ ไทเลอร์ เดอร์เดน (พิทท์) เซลส์แมนขายสบู่ ผู้มาพร้อมปรัชญาผ่าเหล่าที่ว่า การสั่งสมมีไว้สำหรับคนไม่แข็งแรง แต่ว่าคนกล้าของจริงจำเป็นต้องรู้จักทอดทิ้ง ชีวิตที่จืดจางของแจ๊คก็เลยเปลี่ยนไป… เขาและก็ไทเลอร์เริ่มชกกันในที่จอดรถหน้าบาร์แห่งหนึ่ง ซึ่งนำผู้ชายอีกมากมายหน้ามาร่วม และก็รวมกันริเริ่มตั้งขึ้นสังเวียนลับที่พวกเขาเรียกว่า “ไฟท์ คลับ” ความรู้สึกข้างหลังรับดู เป็นหนังปรัชญาที่เล่าได้ดิบไม่มีอารยธรรมมากมายเเละตัวหนังจะออกเเนวdarkเเละในความดิบนี้ยังเเฝงด้วยแง่คิดที่จิกกัดระบบทุนิยมในสังคมได้อย่างดีเยี่ยม หนังดำเนินเรื่องได้ค่อยข้างช้ากับตอนสุดท้ายที่ทำให้เเอดสตั้นไป 5 วิ โดยรวมเป็นหนังที่ดีเยี่ยมๆถ้าหากคุณเป็นคนชอบดูหนังเเต่ยังมิได้รับดูประเด็นนี้เป็นคุณพลาดมากมายๆ
7. The Matrix
ภาพยนตร์ action ไซไฟผู้ครอบครอง 4 รางวัลออสการ์ปี 2000 เรื่องราวผู้ชายปกติที่ดำรงชีวิตกล้วยๆสบายๆไปวันๆตราบจนกระทั่งเขาได้เจอผู้ชายลึกลับที่กล่าวว่า เขาเป็นผู้เดียวที่จะป้องกันโลกจากการรบจักรกล ผลิตผลจาก มันสมองมนุษย์ที่ย้อนกลับมาทำลายผู้เป็นนาย ชายลึกลับฝึกหัดให้นีโอเป็นนักสู้ไซเบอร์ นำข้อมูลใส่ไปสู่สมองให้เขา อีกทั้งวิชาความรู้วิทยาการและก็ศิลป์การต่อสู้ เพื่อจะได้ประมือกับ The Matrix ศูนย์รวมพลังงานที่โลกใหม่ โลกทั่วทั้งโลกก็เลยฝากไว้กับนีโอแต่เพียงผู้เดียว
8. Parasite
Parasite เป็นหนังที่ได้เล่าของความไม่เหมือนระหว่างความแตกต่างได้อย่างแจ่มแจ้งของชนชั้นแรงงานในสังคมแล้วก็ชนชั้นบน ทั้งยังการใช้ชีวิต แนวความคิด ความยากไร้แล้วก็ความสุขความสบายอย่างชัดเจน กล่าวได้ว่าตลอดเกือบจะสองชั่วโมงมีการเล่าที่ไม่มีเบื่อเลย มีการเสนอให้น่าติดตามโดยที่ไม่มีนักแสดงมากมายแต่ว่ามีเรื่องมีราวราวรวมทั้งประวัติความเป็นมาของนักแสดงแต่ละคนที่สลับซับซ้อน ลึกลับซับซ้อนมาก มีเรื่องมีราวให้ลุ้นตลอด สมกับการคราวไ่ด้เป็นหนังที่รับรางวัลจริงๆ
9. The Usual Suspects
หนังเล่าถึง เหตุการฆ่าบนเรือขนสินค้ำ มีคนรอดชีวิตอยู่ 2 ราย รายแรกเป็นชาวฮังเกเรียที่ได้รับบาดเจ็บหนักอยู่ที่โรงหมอ รายลำดับที่สองเป็นชายขาเป๋ ถูกตำรวจจับมาไต่สวน โดยลำพองใจความว่า เขามีพวก 5 คน ถูกว่าจ้างก่อคดีโดยชายลึกลับที่มีนามว่า ”ไคเซอร์ โงนเงนอร์ ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวร้ายนี้ แม้กระนั้นใจความสำคัญก็คือ ไคเซอร์ โคลงเคลงอร์” เป็นผู้ใด? เรื่องย่อก็โดยประมาณนี้ขอรับ เล่ามากยิ่งกว่านี้ก็น่าจะมิได้ ประเดี๋ยวจะเสียอรรถรส ยิ่งทราบน้อย ยิ่งบันเทิงใจขอรับหนังประเด็นนี้ เสนอแนะว่าอย่าไปพบข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับหนังหัวข้อนี้เลยนะครับ ชี้แนะให้มองเลยเป็นอย่างดีที่สุด
หนังเล่าอย่างฉลาด โดยทิ้งเงื่อนไว้ให้ผู้ชมตลอดทั้งเรื่อง ทำให้หนังน่าติดตามมากมายๆมันเป็นอะไรที่เชิญชวนสงสัย ผู้แสดงก็ไม่น่าไว้วางใจสักคน เนื่องจากว่านักแสดงทุกตัวเป็นอาชญากรรม หนังก็เลยออกได้หลายหน้า ความเพลิดเพลินก็เลยอยู่ที่การทายใจตอนสุดท้าย ซึ่งหนังมันก็หลอกผู้ชมอีกนั่นแหละ หลอกไป หลอกมา จริงๆหนังก็มิได้หลอกพวกเราขนาดนั้น แม้กระนั้นบางคราวพวกเราก็คิดไปไกลเอง นั่นแหละครับผมเป็นสิ่งที่พวกเราโดนหลอก จำต้องดูการควบคุมของไบรอัน สิงเกอร์ ที่ทำให้หนังมีลูกเล่นมากไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ”บท” ที่เขียนโดย คริสโตเฟอร์ แมคควร์ปรี่ เป็น ”บท” ที่มีกลเม็ดเด็ดพรายแบบสุดๆสำหรับผู้ที่ถูกใจหนังที่ทายใจตอนสุดท้ายได้ยากก็ทดลองประเด็นนี้เลยครับผม เจ้าตำรับ ”หนังหักมุม” ที่จริงจริง
10. The Intouchables
เวลากลางคืนในกรุงปารีส Driss กำลังขับ Maserati Quattroporte ของ Philippe (Cluzet) ด้วยความเร็วสูง พวกเขาถูกไล่ล่าตามถนนหนทางโดยตำรวจรวมทั้งหมดทางหนีจนถึงท้ายที่สุด Driss พูดว่า Philippe quadriplegic นั้นจะต้องรีบไปที่ห้องรีบด่วนอย่างเร่งด่วน ฟิลิปอ้างถึงว่ามีลักษณะอาการชักรวมทั้งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ถูกหลอกพาไปโรงหมอเรื่องราวของมิตรภาพระหว่างชายทั้งคู่นั้นได้รับการบอกกล่าวว่าเกิดเรื่องย้อนไป: ฟิลิปป์ผู้มีฐานะอัมพาตกลางทางที่มีเจ้าของอนุภาคhôtelหรูหรารวมทั้งผู้ช่วย Magalie ของเขากำลังสัมภาษณ์ผู้สมัครเพื่อดูแลชีวิตของเขา Driss ผู้สมัครปราศจากความมักใหญ่ใฝ่สูงที่กำลังจะได้รับการว่าว่าจ้าง เขาอยู่ตรงนั้นเพื่อรับลายเซ็นบนเอกสารที่มีความหมายว่าเขาถูกสัมภาษณ์รวมทั้งถูกไม่ยอมรับเพื่อที่เขาจะได้รับผลประโยชน์ของเขาถัดไป เขาถูกบอกให้กลับมาในเช้าตรู่วันพรุ่งนี้เพื่อสะสมเอกสารที่ลงชื่อของเขาในพรุ่งนี้ Driss กลับมารวมทั้งได้รับการต้อนรับจาก Yvonne ผู้ช่วยของ Philippe ผู้ซึ่งบอกเขาว่าเขาได้รับหน้าที่ดูแลอยู่ในฐานะผู้ดูแล แม้ว่าจะไม่สนใจงานและก็ขาดประสบการณ์วิชาชีพ Driss ทำเป็นดีสำหรับการดูแล Philippe ถึงแม้ขั้นตอนการของเขาบางทีก็ไม่เป็นทางการ Driss ศึกษาขอบเขตของความพิกลพิการของฟิลิปป์รวมทั้งมากับฟิลิปป์ในทุกขณะของชีวิตช่วยเขาในทุกด้านที่จำเป็นจะต้อง สหายของฟิลิปป์เผยประวัติความเป็นมาอาชญากรรมของ Driss ซึ่งรวมทั้งการเช็ดกติดคุกหกเดือนในข้อกล่าวหาปล้น ฟิลิปพูดว่าเขาไม่สนใจสมัยก่อนของ Driss เนื่องจากเขาเป็นเพียงผู้เดียวที่ไม่ปฏิบัติต่อเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ เขาพูดว่าเขาจะไม่ยิงเขาจนกระทั่งเขาดำเนินงานได้อย่างแม่นยำ
สรุปการแนะนำหนังดีตลอด
ต้องบอกเลยว่าใครที่กำลังหาหนังดีหนังที่สามารถให้ข้อคิดหรือสร้างแรงบันดาลใจในชีวิต ไม่ควรพลาด 10 เรื่องที่เราได้แนะนำล้วนเป็นหนังที่ใครดูแล้วต้องบอกว่าเป็น หนังดีตลอดกาล แน่นอน เป็นหนังที่ดูแล้วอยากกัลมาดูอีก ครบรส ทุกอารมณ์ ใครที่เป็นคอหนังไม่ควรพลาดเด็ดขาด ในบทความต่อไปเราจะแนะนำ หนังไทยดีๆ ฟีลกู้ด รอติดต่อกันได้เลยกับเว็บไซต์รีวิวหนัง แนะนำหนัง northridgemedia